สรุปการทำงานสัปดาห์ที่ 7 (วันที่ 13 - 16 ธ.ค. 54)

1. ค้นหาเลขที่กรมธรรม์และเลขที่สมาชิก จากโปรแกรม inquiry group system จากนั้นนำเลขที่ได้มาคีย์ ลงในโปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 641 ชุด
2.  นำไฟล์ที่ทำการคีย์ข้อมูลเลขที่กรมธรรม์ และเลขที่สมาชิกของวันที่ 23 - 28 พ.ย. มาจัดเรียงข้อมูลตามเลขที่กรมธรรม์ จากนั้นนำข้อมูลที่มีการเรียงตามเลขกรมธรรม์ ไปจัดเก็บไว้ในไฟล์ที่เป็นชื่อตามเลขที่กรมธรรม์เฉพาะไฟล์นั้น ๆ
3. ตรวจสอบรายชื่อลูกค้าในกรมธรรม์ จำนวน 19 รายชื่อ ว่ายังมีผลบังคับใช้หรือไม่
4. ตรวจสอบรายชื่อลูกค้า แผนกรมธรรม์และเงินเดือนของลูกค้า จำนวน 176 รายชื่อ ว่ามีข้อมูลตรงกับที่อัพเดทแล้วหรือไม่
5. ตรวจสอบเลขที่กรมธรรม์และเลขที่สมาชิกในบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงเลขที่กรมธรรม์และเลขที่สมาชิก ว่ามีข้อมูลตรงกับในโปรแกรม inquiry group system หรือไม่
6. ออกหนังสือสลักหลังแนบท้ายกรมธรรม์ 11 ชุด แจ้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงเลขที่กรมธรรม์ให้กับบริษัทลููกค้า จากนั้นทำการสำเนาเอกสารเพื่อเก็บใส่แฟ้มกรมธรรม์ของบริษัท
7. ทำลายบัตรประจำตัวผู้ทำประกัันภัยแบบกลุ่มที่ส่งคืนมาให้ทางบริษัท จำนวน 350 ใบ
8. ตรวจสอบเลขรหัส พนักงานในโปรแกรม inquiry group system จำนวน 306 ที่ทำการยกเลิกความคุ้มครองในกรณีลาออกจากบริษัท ว่าพนักงานที่ลาออกของแต่ละบริษัทนั้นมีเลขที่สมาชิกเลขที่อะไร
9.  เรียงเอกสารแบบฟอร์มการแจ้งเพิ่ม,แก้ไข และเปลี่ยนแปลง ความคุ้มครองของสมาชิกผู้เอาประกันภัยกลุ่ม โดยแยกตามประเภทของ Channel ต่าง ๆ (Banca, Broker, Agency, Direct) จากนั้นเรียงตามหมายเลข Task No.


ปัญหาที่พบจากการทำงาน
1. การตรวจสอบ รายชื่อหรือเลขที่ต่าง ๆ จำนวนมากเป็นเวลานาน ๆ ทำให้สายตาเบลอมองตัวเลขและตัวหนังสือผิดพลาด


แนวทางในการแก้ไขปัญหา
1. ค่อย ๆ ดูไปเรื่อย ๆ เมื่อเกิดปัญหากับสายตา ก็หยุดพัก แล้วค่อยกลับมาทำใหม่


สิ่งที่ได้รับจากการทำงาน
1. ได้เรียนรู้งานใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น
2. ในการตรวจสอบรายชื่อ หรือเลขที่ต่าง ๆ นั้น ต้องทำด้วยความรอบคอบและความระมัดระวัง ทำให้ได้ฝึกตนเองให้มีความละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น 

สรุปการทำงานสัปดาห์ที่ 6 (วันที่ 6 - 9 ธ.ค. 54)

1. ค้นหาเลขที่กรมธรรม์และเลขที่สมาชิก จากโปรแกรม inquiry group system จากนั้นนำเลขที่ได้มาคีย์ ลงในโปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 137 ชุด
2. เรียงเอกสารแบบฟอร์มการแจ้งเพิ่ม,แก้ไข และเปลี่ยนแปลง ความคุ้มครองของสมาชิกผู้เอาประกันภัยกลุ่ม โดยแยกตามประเภทของ Channel ต่าง ๆ (Banca, Broker, Agency, Direct) จากนั้นเรียงตามหมายเลข Task No. 
3. คีย์ข้อมูลพนักงานที่สมัครเข้ามาใหม่ใน Microsoft Excel จำนวน 70 รายชื่อ โดยคีย์ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชน แผนกรมธรรม์ รหัสพนักงาน และวันที่เริ่มเข้าทำงาน
4. ออกหนังสือสลักหลังแนบท้ายกรมธรรม์ จำนวน 7 ชุด สำหรับบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงเลขที่กรมธรรม์
5. พับเอกสารที่ต้องส่งถึงตัวแทนและบริษัทลูกค้าใส่ซอง จำนวน 18 ฉบับ จากนั้นทำการระบุเลขทีกรมธรรม์ไว้ที่หน้าซอง
6. นำไฟล์ที่ทำการคีย์ข้อมูลเลขที่กรมธรรม์ และเลขที่สมาชิกของวันที่ 10 - 23 พ.ย. มาจัดเรียงข้อมูลตามเลขที่กรมธรรม์ จากนั้นนำข้อมูลที่มีการเรียงตามเลขกรมธรรม์ ไปจัดเก็บไว้ในไฟล์ที่เป็นชื่อตามเลขที่กรมธรรม์เฉพาะไฟล์นั้น ๆ


ปัญหาที่พบจากการทำงาน
1. เอกสารที่ต้องนำส่งบริษัทลูกค้าและตัวแทนนั้น มีจำนวนมาก ซึ่งเย็บไว้เป็นชุดอยู่เเล้ว แต่เอกสารบางชุดมีจำนวนน้อย ทำให้หยิบติดไปกับเอกสารชุดอื่น 


แนวทางในการแก้ไขปัญหา
1. ก่อนจะทำการพับเอกสรใส่ซองต้องตรวจสอบดูว่า มีการหยิบเอกสารชุดอื่นติดมาหรือไม่


สิ่่งที่ได้รับจากการทำงาน
1. ความละเอียดรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการคีย์ข้อมูล การออกหนังสือสลักหลังแนบท้ายกรมธรรม์ หรือการระบุเลขที่กรมธรรม์หน้าซอง ก็ต้องมีความละเอียดรอบคอบ และต้องตรวจสอบงานอยู่เสมอ ว่ามีการพิมพ์ผิด เขียนผิดหรือไม่

สรุปการทำงานสัปดาห์ที่ 5 ( วันที่ 28 พ.ย. - 2 ธ.ค. 54 )

1. ค้นหาเลขที่กรมธรรม์และเลขที่สมาชิก จากโปรแกรม inquiry group system จากนั้นนำเลขที่ได้มาคีย์ ลงในโปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 1,096 ชุด
2. เรียงเอกสารตามเลขที่กรมธรรม์ และเลขที่สมาชิก จากนั้นแยกเอกสารไว้ตามเลขที่กรมธรรม์เป็นแฟ้ม และทำการตรวจเช็คสถานะของแต่ละกรมธรรม์ จากโปรแกรม inguiry group system ว่าแต่ละกรมธรรม์ที่ตรวจสอบนั้น ยังมีผลบังคับใช้หรือถูกยกเลิกไปแล้ว จากนั้นทำการแยกแฟ้มตามสถานะที่ตรวจเชค และรอการจัดเก็บนลำดับต่อไป
3. คีย์ข้อมูลการทำคอมมิชชั่นจากใบแจ้งเบี้ยประกันภัยลงใน Microsoft Access โดยทำการ search หาจากเลขที่กรมธรรม์ จากนั้นคีย์เลขที่ จบ/พร., งวดของเบี้ยประกันภัย, วันครบกำหนดชำระ, วันที่มีผลบังคับ, จำนวนของสมาชิกในปัจจุบัน (คำนวณจากสมาชิกที่เช้ามาใหม่หักด้วยจำนวนสมาชิกที่ลาออก) จากนั้นคีย์จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระทั้งหมดและแยกเป็นประเภทของเบี้ยต่าง ๆ ตามความคุ้มครองของแต่ละกรมธรรม์ 
4. พับจดหมายที่ต้องการส่งถึงลูกค้า พร้อมแนบบัตรสมาชิกผู้ทำประกันภัย 80 ฉบับ
5. เรียงเอกสารแบบฟอร์มการแจ้งเพิ่ม, ลดความคุ้มครองสมาชิกผู้เอาประกันภัยโดยแยกตาม channel ต่าง ๆ คือ direct, broker, bancna และ agency จากนั้นทำการเรียงตามเลขที่กรมธรรม์ 


ปัญหาที่พบจากการทำงาน
1. เอกสารมีจำนวนมาก และถูกจัดเก็บอย่างกระจัดกระจายไม่เป็นหมวดหมู่ ทำให้ยากต่อการแยกประเภทและเรียงลำดับ และทำให้ใช้เวลาในการทำงานค่อนข้างมาก


แนวทางในการแก้ไขปัญหา
1. ต้องแยกเอกสารตามประเภทก่อน จากนั้นค่อยนำแต่ละประเภทมาเรียงตามเลขที่กรมธรรม์ จะทำให้ใช้เวลาน้อยลง


สิ่งที่ได้รับจากการทำงาน
1. รู้จักแก้ไขปัญหาและหาวิธีการที่จะทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างง่ายและรวดเร็ว 

สรุปการทำงานสัปดาห์ที่ 4(วันที่ 21 - 25 พ.ย. 54)

1. ค้นหาเลขที่กรมธรรม์และเลขที่สมาชิก จากโปรแกรม inquiry group system จากนั้นนำเลขที่ได้มาคีย์ ลงในโปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 2,442 ชุด
2. เรียงเอกสารตามเลขที่กรมธรรม์ จำนวน 6 ชุด จากนั้นเขียนใบกำกับหน้าซอง ซึ่งระบุเลขที่กรมธรรม์ของแต่ละซอง และช่วงของเลขที่สมาชิกที่บรรจุอยู่ในซอง 
3. คีย์ข้อมูลการทำคอมมิชชั่นจากใบแจ้งเบี้ยประกันภัยลงใน Microsoft Access โดยทำการ search หาจากเลขที่กรมธรรม์ จากนั้นคีย์เลขที่ จบ/พร., งวดของเบี้ยประกันภัย, วันครบกำหนดชำระ, วันที่มีผลบังคับ, จำนวนของสมาชิกในปัจจุบัน (คำนวณจากสมาชิกที่เช้ามาใหม่หักด้วยจำนวนสมาชิกที่ลาออก) จากนั้นคีย์จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระทั้งหมดและแยกเป็นประเภทของเบี้ยต่าง ๆ ตามความคุ้มครองของแต่ละกรมธรรม์
4. ออกหนังสือสลักหลังแนบท้ายกรมธรรม์ จำนวน 4 ชุด
5. ทำลายบัตรประจำตัวผู้ทำประกันชีวิตแบบกลุ่ม ที่หมดอายุและส่งคืนกลับมาให้ทางบริษัท จำนวน 150 ใบ


ปัญหาที่พบจากการทำงาน
1. ลืมขั้นตอนบางขั้นตอน ในการคีย์ข้อมูลการทำคอมมิชชั่น ใน Microsoft Access เนื่องจากมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และต้องให้ความละเอียดสูง 


แนวทางในการแก้ปัญหา
1. หากไม่มั่นใจในขั้นตอนใด จะสอบถามพี่ที่เป็นคนสอน
2. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่คีย์ลงไปอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด


สิ่งที่ได้รับจากการทำงาน
1. ทำให้ตนเองมีความละเอียด รอบคอบมากขึ้น
2. เรียนรู้การใช้งานจากโปรแกรมเพิ่มขึ้น