1. จงสรุปแนวคิดในการจัดการข้อมูลจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
ตอบ จากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการจัดการข้อมูลแบบไฟล์ทำให้เกิดแนวคิดในการจัดการข้อมูลแบบใหม่ ซึ่งแนวคิดเบื้องต้นของฐานข้อมูลคือ การนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันมาจัดเก็บลงในที่เดียวกัน โดยฐานข้อมูลดังกล่าวจะถูกควบคุมโดยซอฟต์แวร์ชุดหนึ่ง แทนที่จะใช้งานแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่กระจัดกระจายและมีการดูแลโดยผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ กัน เป้าหมายสูงสุดของแนวความคิดเกี่ยวกับฐานข้อมูลคือ การที่ข้อมูลแต่ละชุดถูกป้อนและจัดเก็บเพียงครั้งเดียว ผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์เท่านั้นที่สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รวมทั้งการที่ข้อมูลเป็นอิสระจากโปรแกรมประยุกต์เฉพาะกิจใด ๆ โดยการบริหารฐานข้อมูลจะอาศัยซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า ระบบบริหารจัดการฐานข้อมูล (DBMS : Database Management system ) เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างโปรแกรมกับฐานข้อมูล
2. โครงสร้างของแฟ้มข้อมูลประกอบด้วยอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ โครงสร้างของแฟ้มข้อมูล ประกอบไปด้วย
- บิต (bit) ประกอบไปด้วยเลขฐานสอง ใช้แทนค่าหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยหน่วยที่ใช้จะมีค่า 0 และ 1 เท่านั้น
- ไบต์ (byte) คือการนำเอาบิตหลาย ๆ บิตมาเรียงต่อกัน เพื่อให้ได้อักขระ 1 ตัว
- ฟิลด์ (field) คือการนำเอาอักขระตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป มารวมกันเพื่อให้เกิดความหมาย
- เรคคอร์ด (record) คือกลุ่มของฟิลด์ที่มีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ ใน 1 เรคคอร์ดจะประกอบด้วยฟิลด์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันเป็นชุด
- ไฟล์ (file) คือกลุ่มของเรคคอร์ดที่สัมพันธ์กัน ซึ่งในหนึ่งจะไฟล์จะต้องมีอย่างน้อย 1 เรคคอร์ด เพื่อการใช้งานข้อมูล
3. การเก็บข้อมูลแบบแฟ้มข้อมูลมีข้อจำกัดอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การจัดเก็บแฟ้มข้อมูลจะถูกจัดเก็บลงในคอมพิวเตอร์เป็นอิสระ โดยจะสร้างแฟ้มข้อมูลภายในหน่วยงานของตนเอง ทำให้เกิดข้อจำกัดหรือปัญหา ดังนี้
1. ข้อมูลมีการเก็บแยกจากกัน (Separation and Isolation of Data) ในแต่ละหน่วยงาน ทำให้เป็นการยากในการเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรง
2. ข้อมูลมีความซ้ำซ้อน (Data Redundancy) ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลและเสียเนื้อที่ในการเก็บข้อมูล
3. ข้อมูลมีความขึ้นต่อกัน (Data Dependence) ระหว่างโปรแกรมกับโครงสร้างแฟ้มข้อมูลทำให้ต้องแก้ไขโปรแกรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
4. มีรูปแบบที่ไม่ตรงกัน (Incompatible File Formats) เนื่องจากแฟ้มข้อมูลถูกสร้างด้วยโปรแกรมที่ใช้ภาษาที่ต่างกัน ทำให้โครงสร้างข้อมูลต่างกัน และเป็นการยากในการนำแฟ้มข้อมูลทั้งสองมาประมวลผลร่วมกัน 5. รายงานต่าง ๆ ถูกกำหนดไว้อย่างจำกัด เนื่องจากรูปแบบของรายงานต่าง ๆ ถูกกำหนดรูปแบบที่แน่นอนลงในโปรแกรม ถ้าต้องการรายงานใหม่ต้องเขียนโปรแกรมเพิ่ม
4. ฐานข้อมูลคืออะไร และยกตัวอย่างฐานข้อมูลที่รู้จักมา 2 ระบบ
ตอบ ฐานข้อมูล (database) คือกลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน นำมาเก็บรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีระบบและข้อมูลที่ประกอบกันเป็นฐานข้อมูลนั้น ต้องตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานขององค์กรด้วยเช่นกัน ตัวอย่างฐานข้อมูล เช่น
ฐานข้อมูลของบริษัท ประกอบไปด้วยกลุ่มข้อมูลต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น ข้อมูลพนักงาน ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลสินค้า ข้อมูลใบสั่งสินค้า เป็นต้น
ฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย ประกอบไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลนักศึกษา ข้อมูลอาจารย์ ข้อมูลรายวิชา ข้อมูลการลงทะเบียน เป็นต้น
5. ฐานข้อมูลช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูลอย่างไร
ตอบ ฐานข้อมูลช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเก็บข้อมูล ดังนี้
1. ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล เมื่อมีข้อมูลหลายที่ แต่ละหน่วยงานจัดเก็บข้อมูลเอง อาจมีข้อมูลในส่วนที่เหมือนกันหลายส่วน เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูลจะทำให้การเก็บข้อมูลไม่เกิดการซ้ำซ้อน
2. ทำให้เกิดความสอดคล้องของข้อมูล เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลที่ใดที่หนึ่ง ข้อมูลอีกที่หนึ่งก็จะถูกเปลี่ยนไปด้วย
3. ข้อมูลสามารถใช้ร่วมกันได้ การเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน จะสามารถกำหนดรูปแบบที่แน่นอนได้และสามารถใช้ร่วมกับหน่วยงานอื่นได้ เพราะมีมาตรฐานเดียวกัน
4. มีความปลอดภัย การที่นำข้อมูลมารวมอยู่ในที่เดียวกัน สามารถวางมาตรฐานในการแก้ไขและป้องกันได้ดีกว่า จึงไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลไปสู่ผู้ที่ไม่ควรรู้
5. สามารถขจัดความขัดแย้งในการใช้ข้อมูลร่วมกัน ก่อนที่จะมีการจัดเก็บข้อมูลต้องมีการตกลงรูปแบบการเก็บอย่างเป็นเอกฉันท์เสียก่อน ทำให้ไม่เสียเวลาในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
6. ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไร มีส่วนสำคัญต่อฐานข้อมูลอย่างไร
ตอบ ระบบการจัดการฐานข้อมูล (Database Management System) คือ การบริหารแหล่งข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ศูนย์กลาง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ของโปรแกรมประยุกต์อย่างมีประสิทธิภาพ ในอดีตการเก็บข้อมูลมักจะเป็นอิสระต่อกัน ไม่มีการเชื่อมโยงของข้อมูล จึงทำให้เกิดแนวความคิดในการรวมแฟ้มข้อมูลเข้าด้วยกันเเล้วเก็บไว้ที่ศูนย์กลางในลักษณะฐานข้อมูล (Database) จึงทำให้เกิดระบบการจัดการฐานข้อมูล (DBMS) ซึ่งต้องอาศัยโปรแกรมเฉพาะในการสร้างและบำรุงรักษาฐานข้อมูลและสามารถที่จะให้ผู้ใช้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจส่วนตัว ได้โดยการดึงข้อมูล (Retrieve) ขึ้นมาเเล้วใช้โปรแกรมสำเร็จรูปอื่น สร้างงานขึ้นมาโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในฐานข้อมูล
7. ยกตัวอย่างฐานข้อมูลกับการดำเนินชีวิตประจำวัน
ตอบ ตัวอย่างการจัดเก็บข้อมูลในร้านขายยา ซึ่งเก็บข้อมูลเกี่ยวกับยาแต่ละชนิดไว้ในแต่ละไฟล์ และตั้งชื่อไฟล์ให้ตรงตามชื่อยา โดยแยกยาออกเป็นประเภทต่าง ๆ ไว้ในแฟ้มต่าง ๆ ข้อมูลที่เก็บไว้ในไฟล์ได้แก่ วันที่สั่งซื้อ ผู้ผลิต ส่วนประกอบหลักของยา อาการแพ้ยา ราคาซื้อ ราคาขาย จำนวนที่ซื้อมา จำนวนที่เหลืออยู่ เป็นต้น ในการนำข้อมูลของยาตามชื่อและตามประเภทมาใช้ เพียงแค่เปิดไฟล์ให้ถูกต้องตามที่ต้องการก็จะพบข้อมูลของยาชนิดนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น